ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
การทำตาสองชั้นแบบธรรมชาติ เทคนิคและผลลัพธ์

การทำตาสองชั้นแบบธรรมชาติ เทคนิคและผลลัพธ์

ทำตาสองชั้นเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่อยากปรับลุคให้ดวงตาดูสดใส มีมิติมากขึ้น แต่ช่วงหลังคำว่า “ตาสองชั้นแบบธรรมชาติ” กลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลายคนไม่ต้องการลุคที่ดูหลอกตาหรือรู้สึกว่าไปทำมา แต่ต้องการผลลัพธ์ที่เนียนเหมือนไม่ได้ทำ ซึ่งเป็นเหตุผลให้เทคนิคแนวนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นครับ

บทความนี้จะพาไปรู้จักว่าตาสองชั้นแบบธรรมชาติคืออะไร แตกต่างจากแบบอื่นตรงไหน ใช้เทคนิคใดได้บ้าง และผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร

ทำไมคนถึงนิยมตาสองชั้นแบบธรรมชาติ?

คำว่า “ธรรมชาติ” ไม่ได้หมายถึงแค่ผลลัพธ์ที่ดูไม่โป๊ะ แต่ยังรวมถึงความรู้สึกมั่นใจเวลามองกระจก หรือออกไปพบเจอผู้คน โดยไม่ต้องแต่งตาหนาๆ เพื่อปกปิดชั้นตาเดิมที่ไม่เท่ากัน หรือดูอ่อนล้าอยู่เสมอ

คนที่ต้องการลุคธรรมชาติมักจะมีลักษณะดังนี้

  • หนังตาหย่อนเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นตาตก
  • ชั้นตาเดิมไม่ชัด หรือมีชั้นตาหลบใน
  • อยากให้ดวงตาดูโตขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่เวอร์
  • ต้องการลุคที่ดูใสๆ เป็นธรรมชาติ ไม่หวือหวา

เทคนิคที่ช่วยให้ดูธรรมชาติ

แพทย์จะเลือกวิธีให้เหมาะกับลักษณะเปลือกตาและความต้องการของแต่ละคน โดยเทคนิคที่ใช้บ่อยมีดังนี้:

1. เย็บชั้นตาแบบไม่กรีด (Non-incisional Technique)

เหมาะกับคนที่ไม่มีไขมันหรือหนังตาเกินมาก วิธีนี้ไม่ต้องกรีดผิวหนัง ใช้การเย็บเป็นจุดเพื่อสร้างชั้นตาใหม่ ข้อดีคือแผลเล็ก บวมน้อย ฟื้นตัวไว เหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์แบบเนียนๆ ไม่ต้องพักฟื้นนาน

2. กรีดสั้น (Mini-incision)

เหมาะกับคนที่มีไขมันเปลือกตาเล็กน้อย ต้องการเก็บไขมันบางส่วนและสร้างชั้นตาชัดขึ้น เทคนิคนี้จะกรีดหนังตาสั้นๆ แล้วเย็บสร้างชั้นตา เหมาะกับคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยังคงความเนียนเป็นธรรมชาติ

3. กรีดยาว (Full-incision)

แม้ฟังดูเหมือนจะไม่ธรรมชาติ แต่ถ้าออกแบบดีและเย็บแผลอย่างประณีต ชั้นตาที่ได้จะดูเนียนเหมือนไม่ได้ทำ เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่หนังตาหย่อนหรือมีไขมันมาก ซึ่งต้องการจัดการให้ครบถ้วน ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด

ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ

  1. ออกแบบชั้นตาให้เข้ากับรูปหน้า – ชั้นตาที่เหมาะกับตาและโครงหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูละมุน ไม่หลอกตา
  2. ความลึกของรอยพับ – ไม่ควรทำให้สูงเกินไป โดยเฉพาะคนที่อยากลุคเป็นธรรมชาติ ความลึกที่พอดีจะทำให้ตาดูสดใสโดยไม่โดด
  3. ความสมมาตรของชั้นตา – ทั้งสองข้างควรใกล้เคียงกันมากที่สุด แม้อาจไม่เท่ากันเป๊ะ แต่ต้องเนียนจนมองไม่รู้
  4. การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด – ประคบเย็น พักผ่อนเพียงพอ งดใช้สายตามากเกินไป ช่วยให้แผลหายไวและได้ผลลัพธ์สวยขึ้น

ระยะพักฟื้นและการฟื้นตัว

  • เย็บชั้นตา บวมน้อย พักประมาณ 3-5 วันก็ออกไปข้างนอกได้
  • กรีดสั้น บวมปานกลาง ใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 5-7 วัน
  • กรีดยาว อาจบวมมากกว่า ใช้เวลาฟื้นตัว 7-10 วันขึ้นไป แล้วแต่แต่ละคน

ในช่วงพักฟื้นควรเลี่ยงแต่งหน้า ใช้สายตามาก และอย่าขยี้ตา เพราะอาจทำให้แผลหายช้าหรือชั้นตาเคลื่อน

ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร

โดยทั่วไป ดวงตาจะดูโตขึ้นเล็กน้อย มีมิติมากขึ้น แต่ไม่ได้เปลี่ยนรูปหน้าชัดเจน ชั้นตาจะดูนุ่มนวล ไม่ลึกหรือแข็งจนหลอกตา เหมือนเป็นธรรมชาติของตัวเองตั้งแต่แรก

อีกสิ่งที่ได้คือความมั่นใจ เพราะเมื่อตาดูสดใส ใบหน้าก็ดูอ่อนวัยขึ้น หลายคนที่ไม่มั่นใจเวลาหน้าสด ก็จะรู้สึกดีขึ้นโดยไม่ต้องแต่งหน้าทุกวัน

ใครเหมาะกับวิธีนี้บ้าง

  • คนที่ยังไม่เคยทำตามาก่อน อยากเริ่มจากลุคเบาๆ
  • คนที่กลัวว่าจะดูโป๊ะ หรือไม่อยากให้คนรอบข้างรู้ว่าทำมา
  • ผู้ชายหรือผู้หญิงที่อยากให้ตัวเองดูดีขึ้น แต่ยังอยากเก็บความเป็นธรรมชาติไว้
  • คนที่มีชั้นตาหลบใน หรือไม่มีชั้นตา แต่ไม่อยากเปลี่ยนลุคมาก

ข้อควรระวังและเตรียมตัวล่วงหน้า

  • ควรงดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อเลือดอย่างน้อย 7 วัน
  • พักผ่อนให้พอ อย่าอดนอนก่อนวันผ่าตัด
  • ล้างหน้าให้สะอาด งดแต่งหน้าบริเวณดวงตาในวันผ่าตัด
  • พูดคุยกับแพทย์ให้ชัดเจนถึงความต้องการ เพื่อให้เข้าใจตรงกันที่สุด

ทำตาสองชั้นแบบธรรมชาติ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนแปลงแบบแนบเนียน ไม่เวอร์เกินไป และยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้ แค่เลือกแพทย์ที่เข้าใจในรายละเอียด วางแผนให้เหมาะกับเรา และดูแลตัวเองให้ดีหลังทำ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดูดีแบบไม่ต้องพยายามเยอะครับ

เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *