ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
Addicted to screens, addicted to games, addicted to mobile phones, risky behaviors affect the brain and mind.

ติดจอ ติดเกม ติดมือถือ พฤติกรรมเสี่ยงกระทบสมองและจิตใจ

เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต ทุกอย่างกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายคนใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่กับหน้าจอโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่การทำงาน การเรียน ไปจนถึงความบันเทิง เช่น เกม ซีรีส์ หรือโซเชียลมีเดีย จะช่วยสร้างความสะดวกและความสนุก แต่หากขาดการควบคุมก็อาจนำไปสู่พฤติกรรมเสพติดที่ส่งผลกระทบทั้งสมองและสุขภาพจิต

What is screen addiction?

พฤติกรรมติดจอ คืออะไร

การใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป จนกลายเป็นส่วนสำคัญที่ยากจะละทิ้ง เช่น เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง ไม่สามารถหยุดเช็กมือถือได้แม้อยู่ระหว่างทำงานหรือพูดคุยกับคนอื่น พฤติกรรมแบบนี้อาจเริ่มต้นจากความเพลิดเพลิน แต่เมื่อสะสมไปนาน ๆ จะกลายเป็นความเคยชินที่ยากจะแก้ไข

สัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังติดเกมหรือติดมือถือ

  • ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับหน้าจอจนละเลยงานหรือการเรียน
  • รู้สึกหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียเมื่อไม่ได้เล่นเกมหรือเช็กมือถือ
  • มักจะบอกกับตัวเองว่าจะเล่นอีกไม่นาน แต่สุดท้ายใช้เวลาเกินกว่าที่ตั้งใจไว้เสมอ
  • ความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือเพื่อนเริ่มห่างเหินเพราะหมกมุ่นกับหน้าจอ
  • มีอาการทางกาย เช่น ปวดตา ปวดคอ หรืออ่อนเพลียจากการนั่งเล่นต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อสมอง

พฤติกรรมติดจอมีผลโดยตรงต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น

  • สมาธิลดลง การใช้สมาร์ตโฟนหรือเล่นเกมที่มีการกระตุ้นอย่างรวดเร็วทำให้สมองคุ้นเคยกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้โฟกัสกับงานที่ต้องใช้เวลานานได้ยาก
  • ความพึงพอใจถูกรบกวน เกมและโซเชียลมีเดียให้รางวัลทันที เช่น การผ่านด่านหรือยอดไลก์ ส่งผลให้สมองเสพติดความรู้สึกพึงพอใจแบบเร่งด่วน และไม่อดทนรอคอยสิ่งที่ต้องใช้เวลา
  • ร่างกายเสียสมดุลการนอนหลับ การใช้จอในเวลากลางคืนทำให้การหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินลดลง ส่งผลต่อคุณภาพการนอนและทำให้สมองเหนื่อยล้า
Impact on mental health

ผลกระทบต่อสุขภาพจิต

เมื่อใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป จะส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม เช่น

  • ความวิตกกังวลและซึมเศร้า การเปรียบเทียบกับชีวิตของคนอื่นในโซเชียลมีเดียทำให้รู้สึกว่าตนเองด้อยค่า
  • อารมณ์หงุดหงิดง่าย โดยเฉพาะเมื่อถูกขัดจังหวะระหว่างเล่นเกมหรือใช้งาน
  • การเข้าสังคมลดลง เด็กและวัยรุ่นอาจขาดทักษะการสื่อสารกับผู้อื่นในชีวิตจริง
  • การควบคุมอารมณ์แย่ลง เมื่อสมองชินกับความตื่นเต้นจากเกมหรือคอนเทนต์ออนไลน์ จะทำให้ชีวิตจริงดูน่าเบื่อและยากต่อการจัดการ

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง

  • เด็กและวัยรุ่น สมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงเสี่ยงต่อการเสพติดได้ง่าย
  • วัยทำงาน ที่ใช้สมาร์ตโฟนทั้งเพื่อการทำงานและความบันเทิง หากไม่แบ่งเวลาให้ชัดเจน อาจทำให้ขาดสมดุลระหว่างงานและชีวิต
  • ผู้สูงอายุ จะมีสัดส่วนไม่มาก แต่บางรายใช้มือถือเป็นช่องทางหลักในการติดต่อและเล่นเกมเพื่อแก้เหงา ซึ่งหากมากเกินไปก็เสี่ยงต่อภาวะโดดเดี่ยวและซึมเศร้า
How to prevent and manage screen addiction

วิธีป้องกันและดูแลพฤติกรรมติดจอ

  • กำหนดเวลาใช้งาน เช่น ไม่เล่นเกมเกินวันละ 1–2 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงจอในช่วงเวลาก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับได้สนิท
  • สร้างกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับหน้าจอ เช่น ออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือพบปะเพื่อน
  • ฝึกสติและสมาธิ เพื่อช่วยให้รู้เท่าทันอารมณ์และควบคุมการใช้งานได้ดีขึ้น
  • ให้ครอบครัวมีส่วนร่วม โดยเฉพาะในเด็ก ควรกำหนดกติกาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน

เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากเราใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ใช้หาความรู้ ทำงาน หรือเชื่อมต่อกับคนที่ห่างไกล สิ่งสำคัญคือการรู้จักควบคุมและสร้างสมดุลระหว่างโลกออนไลน์กับชีวิตจริง เพื่อให้สมองและจิตใจเติบโตไปในทิศทางที่แข็งแรงและมีความสุข

เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *