ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
หลับไม่ต่อเนื่อง ตื่นบ่อย กลับมาหลับยาก สมองมีแต่เรื่องให้คิด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก

หลับไม่ต่อเนื่อง ตื่นบ่อย กลับมาหลับยาก สมองมีแต่เรื่องให้คิด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก

หลับไม่ต่อเนื่อง ตื่นบ่อย กลับมาหลับยาก สมองมีแต่เรื่องให้คิด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก

หลับไม่ต่อเนื่อง ตื่นบ่อย แล้วกลับมาหลับยาก นอนได้ปุ๊บ แต่ตื่นกลางดึกเป็นประจำ ตื่นมาแล้วนอนต่อไม่ได้ สมองเริ่มวิ่งวนไปคิดเรื่องต่างๆ จ้องเพดาน ป่วนไปป่วนมา นอนใหม่ตอน 5 โมงเช้า ตื่นมาเวลา 7 โมง รู้สึกปวดหัว เหมือนไม่ได้นอนเลย อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นสัญญาณว่าร่างกายและใจของคุณกำลังมีปัญห การนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องธรรมดา อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพกายและใจที่ร้ายแรงกว่าที่คิด

สาเหตุที่พบบ่อย

ความเครียดสะสม ทำให้สมองไม่ยอมพัก

ความกดดันจากงาน เดดไลน์ งานค้าง หัวหน้าเรียกประชุมไม่รู้จบ  ปัญหาการเงิน หนี้สิน ค่าใช้จ่ายสูง รายได้ไม่พอ ความสัมพันธ์ไม่ลงรอย ทะเลาะกับคนรัก ปัญหาครอบครัว กังวลเรื่องอนาคต กลัวการเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น Overthinking คิดมากเรื่องเล็ก วิเคราะห์ทุกสิ่งจนเกินไป ฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) สูง ทำให้ร่างกายอยู่ในโหมด Fight or Flight

ฮอร์โมนการนอนแปรปรวน เวลานอนสั้นลง

  • เมลาโทนิน (Melatonin) หลั่งไม่ปกติ จากแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอ
  • จังหวะ Circadian Rhythm ผิดปกติ นอนดึก ตื่นสาย ไม่สม่ำเสมอ 
  • ฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงหมดประจำเดือน 
  • ฮอร์โมน Growth Hormone ลดลง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น 
  • อุณหภูมิร่างกายไม่ลดลงตามปกติ ทำให้นอนไม่ลึก 
  • ระดับ Adenosine ผิดปกติ สารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกง่วง

ปัญหาสุขภาพกาย

  •  กรดไหลย้อน (GERD) ปวดแสบคอ แน่นหน้าอก ตอนนอน 
  •  นอนกรน หรือ Sleep Apnea หายใจขัดขวางขณะหลับ 
  •  ปัสสาวะบ่อย ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำ 2-3 ครั้งต่อคืน 
  •  ปวดเรื้อรัง หลัง คอ ขา ทำให้นอนไม่สบาย 
  •  โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เสถียร 
  •  ปัญหาไทรอยด์ ฮอร์โมนไม่สมดุล 
  •  โรคหัวใจ การไหลเวียนเลือดไม่ดี 
  •  ภาวะขาไม่สงบ (Restless Leg Syndrome) ขาเสียวซ่า ต้องขยับ 

4. พฤติกรรมก่อนนอนที่ผิด

  • เล่นมือถือ ดูซีรีส์ จนดึกมาก แสงสีน้ำเงินรบกวนเมลาโทนิน 
  • กินอาหารหนัก หรือขนมหวานก่อนนอน ระบบย่อยอาหารต้องทำงาน
  • ดื่มกาแฟ ชา ช่วงบ่ายหรือเย็น คาเฟอีนค้างในร่างกาย 8-10 ชั่วโมง
  • ดื่มแอลกอฮอล์ คิดว่าจะช่วยให้นอนหลับ แต่จริงๆ ทำให้นอนไม่ลึก
  • ออกกำลังกายหนัก ใกล้เวลานอน ทำให้ร่างกายตื่นตัว
  • ห้องนอนไม่เหมาะสม ร้อน เสียงดัง แสงส่อง หมอนเก่า
  • ไม่มีกิจวัตรก่อนนอน เข้านอนไม่เป็นเวลา ไม่เตรียมจิตใจ

ผลกระทบที่ตามมา

เมื่อร่างกายไม่ได้พักผ่อนเต็มที่จากการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง สมองจะทำงานผิดจังหวะ ทำให้ความจำและสมาธิลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตื่นเช้ามาก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น เหมือนพลังงานไม่เคยถูกชาร์จเต็ม ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานหรือการเรียนถดถอยง่ายขึ้น อีกทั้งความเหนื่อยสะสมยังทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง จึงเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้บ่อยกว่าเดิม

ผลต่อสมองและการทำงานของจิต

สมองอ่อนล้า ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น รู้สึกเหมือนไม่ได้นอนเลย ความจำแย่ลง ลืมง่าย นึกชื่อคนไม่ออก วางของแล้วหาไม่เจอ สมาธิสั้น ทำงานไม่จดจ่อ อ่านหนังสือแล้วไม่เข้าหัว ตัดสินใจได้ช้า เลือกเสื้อผ้าได้นาน คิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ความคิดสร้างสรรค์ลดลง ไอเดียไม่มา แก้ปัญหาไม่ได้ การเรียนรู้ช้าลง เข้าใจเรื่องยาก จำสิ่งใหม่ไม่ได้

ผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม

อารมณ์แปรปรวน เศร้าง่าย ดีใจง่าย ผันผวนไม่แน่นอน หงุดหงิดง่าย โมโหเร็ว โดยเฉพาะกับคนใกล้ชิด อดทนน้อยลง เรื่องเล็กๆ ทำให้หงุดหงิดมาก วิตกกังวลเพิ่มขึ้น กลัวเรื่องไม่น่ากลัว คิดมากเรื่องเล็ก มองโลกในแง่ลบ คิดแต่เรื่องไม่ดี ไม่เชื่อว่าจะดีขึ้น ไม่อยากเข้าสังคม หลีกเลี่ยงเพื่อน ไม่อยากคุยกับใคร

ผลต่อสุขภาพกาย

ภูมิคุ้มกันตก เจ็บป่วยง่าย หายช้า ไข้บ่อย สุขภาพกายแย่ลง รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลาน้ำหนักเพิ่ม เผาผลาญช้าลง ฮอร์โมนหิวผิดปกติ ผิวพรรณแย่ลง หมองคล้ำ เหี่ยวย่น มีถุงใต้ตา เสี่ยงโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หัวใจทำงานหนักเสี่ยงเบาหวาน ร่างกายต้านทานอินซูลิน การสมานแผลช้า เซลล์สร้างใหม่ได้น้อย

ผลต่อสุขภาพจิต

  • เพิ่มความเสี่ยงภาวะซึมเศร้า มากกว่าคนที่นอนหลับปกติ 3 เท่า 
  • ความวิตกกังวลรุนแรงขึ้น กังวลเรื่องเล็ก คิดมากเรื่องงาน 
  • ความคิดลบเพิ่มขึ้น มองตัวเองไม่ดี รู้สึกไร้ค่า 
  • ขาดแรงจูงใจ ไม่อยากทำอะไร รู้สึกชีวิตไร้ความหมาย 
  • ความสัมพันธ์แย่ลง ทะเลาะกับคนรัก เพื่อนฝูง 
  • ประสิทธิภาพการทำงานลด ทำงานช้า ผิดพลาดบ่อย 

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • ห้องนอนมืด เงียบ เย็นสบาย (18-22 องศา) ใช้ผ้าปิดตา ปิดหู หากจำเป็น เปลี่ยนหลอดไฟเป็นแสงส้ม (Warm Light) ใช้เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลม เพื่อให้อากาศหมุนเวียน
  • เตียงและที่นอนที่เหมาะสม เปลี่ยนที่นอนทุก 7-10 ปี เลือกหมอนที่รองรับคอดี ใช้ผ้าปูที่นอนสีเข้ม หรือผ้าที่มีคุณสมบัติดูดกลืนแสง
  • ลดแสงและเสียงรบกวน ปิดโทรศัพท์ หรือใช้โหมดเครื่องบิน ใส่ปลั๊กหูลดเสียง หรือเปิดเสียงธรรมชาติ ติดผ้าม่านหนา หรือกระดาษดำที่หน้าต่าง
  • นอนและตื่นเวลาเดิมทุกวัน รวมวันหยุดด้วย กำหนดเวลานอน เช่น 22.00 น. และตื่น 6.00 น. ไม่นอนเกิน หรือนอนน้อยกว่าปกติมากเกินไป ถ้าไม่ง่วง อย่าฝืนเข้าเตียง รอให้ง่วงจริงๆ
  • หลีกเลี่ยงการงีบกลางวัน หรืองีบไม่เกิน 20-30 นาที ถ้าต้องงีบ ให้งีบก่อน 15.00 น. ตั้งปลุกเพื่อไม่ให้งีบนานเกินไป
  • สร้างกิจวัตรก่อนนอน
    • 1 ชั่วโมงก่อนนอน หยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    • 30 นาทีก่อนนอน อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ทำสมาธิ
    • 15 นาทีก่อนนอน เตรียมของใช้วันพรุ่งนี้ วางใจให้สบาย
  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลัง 14.00 น.รวมถึงชา โซดา ช็อกโกแลต ยาบางชนิดเปลี่ยนมาดื่มชาแคโมไมล์ หรือน้ำอุ่น
  • หลีกเลี่ยงอาหารหนักก่อนนอน กินอาหารเย็นก่อน 19.00 น. หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน หลีกเลี่ยงอาหารมัน เผ็ด หวานจัด ถ้าหิวก่อนนอน กินของว่างเบาๆ เช่น กล้วย นมอุ่น
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่ใกล้เวลานอน เวลาเหมาะ เช้า หรือบ่าย (ก่อน 18.00 น.) กิจกรรมเบาๆ ก่อนนอน: โยคะ การยืดเหยียด หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ตื่นตัว ก่อนนอน 2 ชั่วโมง 

อย่ามองข้ามการนอน เพราะ “การพักผ่อนที่ดี” คือรากฐานของสุขภาพกายและใจ การนอนหลับไม่ใช่เวลาที่เสียไป แต่เป็นการลงทุนในสุขภาพและความสุขของคุณ เมื่อคุณนอนหลับดี สมองจะทำควาสะอาดตัวเอง กำจัดสารพิษและความจำไม่ดี ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ สร้างเซลล์ใหม่ ฮอร์โมนจะสมดุล ทำให้อารมณ์ดี มีแรงจูงใจ ภูมิคุ้มกันจะแข็งแรง ป้องกันโรคได้ดี หัวใจจะได้พักผ่อน ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *