ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
ของแพง ค่าใช้จ่ายสูง หนี้สินสะสม จนเกิดความเครียดเรื้อรัง

ของแพง ค่าใช้จ่ายสูง หนี้สินสะสม จนเกิดความเครียดเรื้อรัง

ของแพง ค่าใช้จ่ายสูง หนี้สินสะสม จนเกิดความเครียดเรื้อรัง

“เงินไม่พอใช้… แต่รายจ่ายไม่เคยหยุด” เปิดแอปธนาคารแล้วใจหาย เพราะเงินเหลือน้อยกว่าที่คิด ต้องกู้ดอกเบี้ยสูง เพื่อใช้หนี้เดิม วนลูปไม่รู้จบ บอกตัวเองว่า “เดือนหน้าจะดีขึ้น” แต่เดือนหน้ามาก็ยังเหมือนเดิม

นี่คือจุดเริ่มต้นของ ความเครียดเรื้อรัง” ที่หลายคนกำลังเผชิญในยุคที่ค่าครองชีพสูง แต่เงินเดือนเพิ่งได้นิดเดียว เราถูกบีบให้ใช้จ่ายมากกว่าที่มีและเมื่อความกดดันทางการเงินสะสมไปนาน ๆ มันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตมากกว่าที่คิด

สถิติที่น่าตกใจ

7 ใน 10 คนไทยมีปัญหาหนี้สิน 6 ใน 10 คนเครียดเรื่องเงินเป็นประจำ ความเครียดเรื่องเงินเป็นสาเหตุการหย่าร้าง อันดับ 1

 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเงินกำลังกลายเป็นปัญหาหนักใจ

 ผลกระทบต่อความสัมพันธ์

  •  ทะเลาะกับคนในครอบครัวบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่าย
  •  หลีกเลี่ยงเพื่อนฝูง ไม่อยากไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วย
  • ไม่อยากเข้าสังคม กลัวต้องจ่ายเงิน หรือโดนถามเรื่องงาน
  •  รู้สึกอับอายเมื่อคนอื่นรู้ว่าเรามีปัญหาเงิน
  • หงุดหงิดง่าย เอาเรื่องเงินมาโมโหใส่คนใกล้ชิด

 ผลกระทบต่อสุขภาพกาย

  •  นอนไม่หลับ คิดเรื่องหนี้ตลอดเวลา วนซ้ำในหัว
  •  ตื่นตอนกลางดึก กังวลเรื่องเงิน แล้วกลับนอนไม่ได้
  •  ปวดหัว ปวดขมับ จากความเครียดเรื้อรัง
  •  กินไม่ได้ หรือกินมากเกินไปเพื่อระบาย
  •  เจ็บป่วยง่าย เพราะภูมิคุ้มกันตกจากความเครียด

 ผลกระทบต่อจิตใจ

  •  เริ่มรู้สึกว่า “ไม่มีทางออก” หมดหวังกับชีวิต
  •  คิดว่าตัวเองล้มเหลว ไร้ค่า เป็นภาระของคนอื่น
  •  วิตกกังวลตลอดเวลา แม้แต่เรื่องเล็กๆ ก็กลัว
  •  หยุดทำสิ่งที่เคยชอบ เพราะ “ไม่มีเงิน” หรือ “ไม่มีแรงใจ”
  •  เริ่มมีความคิดทำร้ายตัวเอง หรือหนีจากปัญหา

 ผลกระทบต่อการทำงาน

  •  สมาธิแย่ลง ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
  •  ขาดงานบ่อย เพราะไม่มีแรงใจ หรือป่วย
  •  กลัดกลุ้มเรื่องอนาคตการงาน กลัวถูกไล่ออก
  •  ไม่กล้าเจรจาขึ้นเงินเดือน เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า

 วิธีรับมือเบื้องต้น 

วางแผนจัดการหนี้และค่าใช้จ่าย

หรือจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย เป็นเวลา 1 เดือน ให้ครบทุกรายการ ดูว่าเงินหายไปไหนจริงๆ (มักจะเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ) แยกรายจ่าย “จำเป็น” กับ “อยาก” และตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น แอปพรีเมียม ของขบเคี้ยว

ใช้กฎ 50/30/20

  • 50% = ค่าใช้จ่ายจำเป็น (ค่าเช่า อาหาร เดินทาง)
  • 30% = ค่าใช้จ่ายความสุข (เที่ยว ของใช้ ความบันเทิง)
  • 20% = เก็บออม และจ่ายหนี้

 จัดการหนี้อย่างเป็นระบบ

ใช้วิธี Debt Snowball จ่ายหนี้น้อยก่อน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ หรือ Debt Avalanche จ่ายหนี้ดอกเบิ้ยสูงก่อน เพื่อประหยัดเงิน ปรึกษาธนาคารเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้

 พักผ่อนให้สมองได้คลายเครียด

  •  ฝึกการหายใจลึก เมื่อเครียดเรื่องเงิน (หายใจเข้า 4 จังหวะ กลั้น 4 จังหวะ ออก 4 จังหวะ)
  •  ตั้งเวลา “ห้ามคิดเรื่องเงิน” เช่น หลัง 20:00 ห้ามคิดเรื่องนี้
  •  นอนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7 ชั่วโมง แม้จะมีเรื่องกังวล
  •  ทำสมาธิ หรือ โยคะ 10-15 นาทีต่อวัน

 ทำกิจกรรมที่ช่วยเบี่ยงเบนความคิด

  •  ออกกำลังกายฟรีๆ เดิน วิ่งในสวน ยิมในสวนสาธารณะ
  •  ฟังเพลง หรือ ดูหนัง (ใน Netflix ที่มีอยู่แล้ว หรือ YouTube ฟรี)
  •  อ่านหนังสือ ในห้องสมุดประจำตำบล (ฟรี)
  •  ปลูกผัก หรือ ดูแลต้นไม้ ประหยัดค่าอาหาร ได้ผ่อนคลายด้วย
  •  ทำอาหารเอง แทนการสั่งข้าว ทั้งประหยัดและสนุก

ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

  • ปรึกษานักวางแผนการเงิน (Financial Planner) หากกังวลเรื่องเงินมาก หลายธนาคารให้บริการปรึกษาฟรีสำหรับลูกค้า มีคอร์สออนไลน์สอนวางแผนการเงินฟรีมากมาย
  • ปรึกษาที่ปรึกษาทางกฎหมาย หากหนี้สินรุนแรง ศูนย์ให้คำปรึกษาทางกฎหมายฟรีในแต่ละจังหวัด
  • สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค 📞
  •  สร้างเครือข่ายช่วยเหลือ คุยกับคนที่ไว้ใจ เพื่อระบายความรู้สึก ไม่ใช่ขอเงิน  หากลุ่มช่วยเหลือกัน เช่น กลุ่มแชร์ค่าใช้จ่าย หรือแลกเปลี่ยนบริการ  หาแหล่งรายได้เสริม ที่สามารถทำได้นอกเวลา ขายของออนไลน์ ทำอาหาร รับจ้างงานสั้น ใช้ทักษะที่มี เช่น สอนพิเศษ แปลงาน ออกแบบ

เปลี่ยนมุมมองต่อเงิน

  •  เงินไม่ได้กำหนดความเป็นคน คุณค่าของคุณไม่ได้อยู่ที่ยอดในบัญชี
  •  ทุกคนมีช่วงที่ยากลำบาก คุณไม่ได้อยู่คนเดียว
  •  เน้นสิ่งที่มี มากกว่าสิ่งที่ไม่มี
  • สุขภาพที่ดี ครอบครัวที่รักกัน เพื่อนที่ใส่ใจ ทักษะ ประสบการณ์ ความรู้ที่สะสมมา

 เมื่อไหร่ควรขอความช่วยเหลือทันที

ความเครียดรุนแรงกว่า 2 สัปดาห์ ส่งผลต่อการใช้ชีวิต มีความคิดทำร้ายตัวเอง หรือหนีจากปัญหาใช้สารเสพติด แอลกอฮอล์ เพื่อหนีความเจ็บปวดความสัมพันธ์ในครอบครัวเสียหายรุนแรง

สายด่วนที่ช่วยได้

📞 สายด่วนสุขภาพจิต : 1323 (24 ชั่วโมง ฟรี)

📞 ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค : 1166

📞 สายด่วนปัญหาหนี้สิน : 1111

เพราะสุขภาพใจสำคัญไม่แพ้กระเป๋าสตางค์ครับ เงินเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิต ไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต การมีเงินเยอะแต่ไม่มีความสุข ก็ไม่มีความหมาย การมีเงินน้อยแต่มีใจที่สุขใจ จะทำให้เราสู้ต่อไปได้  จำไว้เสมอว่า ปัญหาการเงินแก้ได้ แต่สุขภาพจิตที่เสียไปแล้ว จะใช้เวลาถึงจะกลับมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *