ข้อมือเจ็บหลังเล่นดัมเบลถือเป็นเรื่องปกติไหม
การเล่นดัมเบล เป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยเสริมความแข็งแร […]
เจ็บเข่าหลังวิ่ง เป็นอาการที่นักวิ่งเจอ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือเพิ่มระยะวิ่งเร็วเกินไป หลายคนมักสงสัยว่าเมื่อเริ่มปวดเข่าแล้ว ควรหยุดออกกำลังกายทันทีหรือยังสามารถฝึกต่อได้อยู่? คำตอบไม่ได้มีแค่ “หยุด” หรือ “ไปต่อ” แต่ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการเจ็บและระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บ ถ้าเข้าใจกลไกของอาการนี้ ก็จะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องเลิกวิ่งไปตลอด

สารบัญเนื้อหา
Toggleโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าขา และกล้ามเนื้อสะโพก เมื่อไม่แข็งแรงพอ จะทำให้เข่ารับแรงกระแทกมากเกินไป จนเกิดอาการปวด
การลงส้นเท้าแรงเกินไป หรือวางเท้าไม่ตรงแนวเข่า อาจทำให้แรงกระแทกสะสมบริเวณข้อต่อเข่าและกระดูกสะบ้า
รองเท้าเก่าหรือรองเท้าที่ไม่รองรับแรงกระแทกเพียงพอ จะส่งแรงกลับเข้าสู่ขาและหัวเข่าโดยตรง
กล้ามเนื้อและข้อต่อของร่างกายต้องใช้เวลาในการปรับตัว หากเพิ่มระยะทางหรือความเร็วเกิน 10% ต่อสัปดาห์ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสม
เช่น ภาวะ “Runner’s Knee” หรือ “Patellofemoral Pain Syndrome” ซึ่งเป็นการอักเสบของกระดูกสะบ้าและเนื้อเยื่อรอบข้อต่อ

ไม่จำเป็นต้องหยุดเสมอไป แต่อาจต้อง “ปรับวิธีออกกำลังกาย” ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
เช่น รู้สึกตึง ๆ หรือปวดเมื่อยบริเวณรอบเข่าโดยไม่มีอาการบวม สามารถ ลดระยะทางหรือลดความเร็วลงชั่วคราว และเน้นการอบอุ่นร่างกายกับยืดกล้ามเนื้อให้มากขึ้น
เริ่มมีอาการบวมเล็กน้อย หรือเจ็บเมื่อเดินขึ้นลงบันได ควร หยุดวิ่งชั่วคราว 3–5 วัน แล้วเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายแบบแรงกระแทกต่ำ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือโยคะ เพื่อให้ข้อต่อได้พักแต่ร่างกายยังคงเคลื่อนไหวอยู่
เช่น ปวดจนลงน้ำหนักไม่ได้ หรือมีเสียง “ดังกรอบแกรบ” ในเข่า ควร หยุดออกกำลังกายทันทีและพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ อาจมีการฉีกขาดของเส้นเอ็นหรือกระดูกอ่อนในข้อ

หยุดกิจกรรมที่ทำให้ปวด แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวเบา ๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ใช้น้ำแข็งประคบ 15–20 นาที วันละ 2–3 ครั้งในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
ช่วยลดการบวมและพยุงข้อต่อ
ขณะพักควรยกขาให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดอาการบวม
เจ็บเข่าหลังวิ่ง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดออกกำลังกายตลอดไป แต่อาจเป็นสัญญาณให้คุณ ชะลอ ปรับ และฟื้นฟู เพื่อกลับมาวิ่งได้อย่างปลอดภัย การดูแลเข่าไม่ใช่แค่เรื่องของนักกีฬา แต่คือพื้นฐานของทุกการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ออกกำลังกายอย่างมีสติ และอย่าลืมว่าความแข็งแรงที่แท้จริง เริ่มจาก “การเคารพขีดจำกัดของตัวเอง”
เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia
การเล่นดัมเบล เป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยเสริมความแข็งแร […]
ท่าแพลงก์ เป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวที่หลายคนค […]
ระหว่างออกกำลังกาย หลายคนอาจรู้สึก “มือชา” หรือ “ปลายนิ […]
หลายคนที่ออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่ง จะรู้สึกว่าหัวใจ […]
ออกกำลังกายเหมือนเดิมทุกวัน แต่กลับรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้ […]
ร่างกายมีขีดจำกัดที่มองไม่เห็น บางครั้งไม่ได้ป่วย แต่กล […]
หลายคนตั้งใจเริ่มออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แต่พอผ่านไปไ […]
ท่าแพลงก์ (Plank) เป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกายที่ช่วยเสริม […]
หลายคนที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน อาจเคยมีประสบการณ์ “รู้ส […]