คณะเทคนิคการแพทย์ มข. นำนวัตกรรมสุขภาพไทยสู่เวทีโลก ในงาน World Expo 2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น

World Expo 2025 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นงานแสดงนวัตกรรมระดับโลกที่รวบรวมเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และผลงานสร้างสรรค์จากทุกประเทศ โดยมีแนวคิดหลักคือ “Designing Future Society for Our Lives” หรือ “ออกแบบอนาคตเพื่อชีวิตของเรา” ปีนี้ ความภาคภูมิใจของประเทศไทยคือ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ที่ได้รับโอกาสนำนวัตกรรมสุขภาพไทยไปร่วมแสดงในงาน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และผลงานวิจัยที่ช่วยยกระดับระบบสุขภาพของไทยให้ทัดเทียมระดับสากล

“เทคนิคการแพทย์ มข.” บนเวทีโลก

คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นสถาบันการศึกษาด้านสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ทางเทคนิคการแพทย์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง การได้เข้าร่วม World Expo 2025 ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพของสถาบัน แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของนักวิจัยไทยที่สามารถสร้างผลงานในระดับนานาชาติ

การเข้าร่วมครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “Health Innovation for a Sustainable Future” สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านการป้องกัน การตรวจวินิจฉัย และการฟื้นฟู

นวัตกรรมเด่นที่นำเสนอในงาน

คณะเทคนิคการแพทย์ มข. ได้นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักวิจัยไทยและเครือข่ายนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพที่เข้าถึงง่าย ปลอดภัย 

ตัวอย่าง เช่น

• นวัตกรรมตรวจคัดกรองโรคด้วยระบบดิจิทัล (Digital Diagnostic Platform)

เทคโนโลยีที่ผสานระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับฐานข้อมูลสุขภาพ เพื่อช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงโรคในระยะเริ่มต้นได้อย่างแม่นยำ

• โครงการพัฒนาชุดทดสอบสุขภาพเคลื่อนที่ (Mobile Health Lab Kit)

ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง โดยใช้เทคนิคจากห้องแล็บที่ย่อส่วนมาในรูปแบบพกพา

• เครื่องตรวจการทำงานของเอนไซม์ในเลือดแบบรวดเร็ว (Rapid Enzyme Analyzer)

ผลงานวิจัยที่ช่วยให้การวินิจฉัยโรคทางเมตาบอลิซึมและโรคตับเป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำและใช้เวลาตรวจน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของวิธีเดิม

• ระบบเฝ้าระวังสุขภาพชุมชน (Community Health Surveillance System)

เครื่องมือดิจิทัลที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อใช้ติดตามข้อมูลสุขภาพของประชาชนในระดับตำบลและอำเภอ

การสร้างเครือข่ายนานาชาติและความร่วมมือด้านวิจัย

งาน World Expo 2025 คณะเทคนิคการแพทย์ มข. ไม่ได้เพียงจัดแสดงนวัตกรรม แต่ยังใช้โอกาสนี้ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคนิคการแพทย์ รวมถึงวางรากฐานโครงการวิจัยร่วมในอนาคต

ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนานวัตกรรมสุขภาพที่ตอบโจทย์ “ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์” โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นความท้าทายของระบบสุขภาพทั่วโลก

เสียงจากผู้บริหารคณะเทคนิคการแพทย์

รศ.ดร.นพ.ภัทรเดช สกุลอารีย์ (คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มข.) กล่าวถึงการเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่า

“นี่คือก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของคนไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติใดในโลก การที่ผลงานของเราถูกคัดเลือกให้จัดแสดงในเวทีระดับโลก สะท้อนถึงคุณค่าของการวิจัยและการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เพื่อสังคม”

นอกจากนี้ คณบดีฯ ยังเน้นว่าการเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวคิดด้านสุขภาพจากประเทศต่าง ๆ เพื่อนำกลับมาพัฒนาต่อยอดในประเทศไทย

การมีส่วนร่วมของนักศึกษาและชุมชน

จุดเด่น ของคณะเทคนิคการแพทย์ มข. คือ การเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมร่วมกับคณาจารย์ในงานนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยเห็นความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพ

ผลงานหลายชิ้นที่จัดแสดงในงานเกิดจากแนวคิดของนักศึกษาในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการสร้าง “นักเทคนิคการแพทย์รุ่นใหม่” ที่มีความคิดสร้างสรรค์และเข้าใจเทคโนโลยี คือเป้าหมายสำคัญของสถาบัน

นวัตกรรมเพื่อสังคม

นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คณะเทคนิคการแพทย์ มข. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคม เช่น

• โครงการตรวจสุขภาพเชิงรุกในพื้นที่ชนบท
• การอบรมให้ความรู้เรื่องการตรวจคัดกรองโรคด้วยตนเอง
• การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพแก่ชุมชนท้องถิ่น

คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับเกียรติให้นำนวัตกรรมสุขภาพของไทยไปร่วมงาน World Expo 2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกความสำคัญของวงการแพทย์ไทยในการแสดงศักยภาพสู่สายตานานาชาติ ไม่ใช่เพียงการนำผลงานไปจัดแสดง แต่คือการยืนยันว่า “องค์ความรู้และนวัตกรรมสุขภาพของไทย” สามารถยืนอยู่ในระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบัน แต่ยังจุดประกายแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ เชื่อมั่นว่าความตั้งใจ วิทยาศาสตร์ และความร่วมมือ สามารถผลักดันให้ระบบสุขภาพไทยไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia