ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
กลัวคนรอบข้าง ทำไมรู้สึกว่าคนจะทำร้าย เข้าใจโรคจิตเภท (Paranoid Schizophrenia)

กลัวคนรอบข้าง ทำไมรู้สึกว่าคนจะทำร้าย เข้าใจโรคจิตเภท (Paranoid Schizophrenia)

กลัวคนรอบข้าง ทำไมรู้สึกว่าคนจะทำร้าย เข้าใจโรคจิตเภท (Paranoid Schizophrenia)

อาการหวาดระแวง คิดว่ามีคนจะทำร้าย หรือเชื่อว่าคนรอบข้างไม่หวังดี อาจไม่ใช่เพียงความกังวลใจทั่วไป แต่เป็นสัญญาณของโรคจิตเภทชนิดหลงผิดหวาดระแวง (Paranoid Schizophrenia) ภาวะนี้เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ส่งผลให้การรับรู้และความคิดบิดเบี้ยว ผู้ป่วยอาจเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นจริงและรู้สึกกลัวโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

โรคนี้พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยมักเริ่มปรากฏอาการช่วงอายุระหว่าง 18–35 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงานหรือวัยเรียนที่มีความเครียดสะสมสูง

อาการที่พบบ่อย

  • กลัวว่าคนรอบข้างจะทำร้าย หรือมีแผนร้ายซ่อนอยู่
  • ได้ยินเสียงในหัว เช่น เสียงคนพูด เสียงสั่งการ หรือเสียงเตือน
  • มีความเชื่อผิด ๆ ว่ามีคนคอยติดตามหรือจ้องจับผิด
  • ไม่ไว้ใจแม้กระทั่งคนในครอบครัว
  • มีความคิดแปลก ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้
  • สีหน้าและพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น พูดคนเดียว หัวเราะโดยไม่มีสาเหตุ หรือหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคจิตเภทแบบหวาดระแวง

  • พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคจิตเภท ความเสี่ยงจะสูงขึ้น
  • ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะโดปามีนและกลูตาเมต
  • สภาพแวดล้อมและความเครียดสะสม เช่น การทำงานหนัก การสูญเสียคนใกล้ชิด หรือประสบเหตุรุนแรงทางอารมณ์
  • การใช้สารเสพติด เช่น ยาเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองและฮอร์โมนควบคุมอารมณ์ทำงานผิดสมดุล

ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

  • นอนไม่หลับ หรือฝันร้ายซ้ำ ๆ
  • สูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพราะไม่ไว้ใจใคร
  • ไม่สามารถทำงานหรือเรียนได้ตามปกติ
  • มีโอกาสเกิดอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลร่วมด้วย
  • ในบางรายอาจมีแนวโน้มทำร้ายตัวเองหากอาการรุนแรง

กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง

  1. คนที่มีญาติสายตรงเป็นโรคจิตเภท
  2. ผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์กระทบจิตใจรุนแรง เช่น การสูญเสียหรือการถูกทำร้าย
  3. ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเรื้อรังหรือวิตกกังวลขั้นรุนแรง
  4. ผู้ที่ใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

แนวทางรักษาและการดูแล

  • เข้าพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด

แพทย์จะประเมินทั้งด้านจิตใจและการทำงานของสมองก่อนให้การรักษา

  • การใช้ยา 

เพื่อควบคุมอาการหลอน หวาดระแวง หรืออารมณ์แปรปรวน

  • การบำบัดด้านพฤติกรรมและจิตใจ (CBT) 

ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความคิดและจัดการกับความกลัวได้ดีขึ้น

  • การสนับสนุนจากครอบครัวและคนใกล้ชิด 

เป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้ป่วยมักรู้สึกโดดเดี่ยว

  • ฝึกการผ่อนคลายความเครียด 

เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ ฝึกสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ

  • ติดตามอาการต่อเนื่องกับแพทย์ 

เพื่อปรับยาและประเมินอาการอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งที่ครอบครัวควรทำ

  • รับฟังและเข้าใจผู้ป่วยโดยไม่ตัดสิน
  • หลีกเลี่ยงการโต้แย้งหรือบังคับให้เปลี่ยนความคิด
  • สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
  • จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ ปลอดภัย และลดสิ่งกระตุ้นทางอารมณ์

ข้อควรรู้

โรคจิตเภทไม่ใช่ “ความบ้า” แต่เป็นภาวะที่สมองส่งสัญญาณผิดพลาด ทำให้รับรู้ความจริงบิดเบี้ยว หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ การสังเกตและเข้ารับการรักษาเร็วคือการควบคุมอาการและป้องกันภาวะรุนแรงในอนาคต

ความหวาดระแวงหรือกลัวว่าคนรอบข้างจะทำร้าย อาจไม่ใช่แค่ความคิดฟุ้งซ่าน แต่เป็นสัญญาณของภาวะจิตเภทชนิดหวาดระแวงที่ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์จิตเวชโดยเร็ว โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ไม่ใช่ความอ่อนแอทางใจ และสามารถรักษาได้หากเข้ารับการดูแลอย่างเหมาะสม การรับฟังด้วยความเข้าใจจากคนใกล้ชิดจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย และกล้ากลับมารักษาตัวต่อเนื่อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *