ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
Why do some people develop scar tissue after chin augmentation? How can this be prevented?

ทำไมบางคนเสริมคางแล้วเกิดพังผืด ควรป้องกันอย่างไร

หลังเสริมคาง หลายคนคาดหวังให้รูปหน้าเรียวและคางเข้ารูปได้อย่างสวยงาม แต่ในบางกรณีเมื่อเวลาผ่านไป กลับพบว่า “คางแข็งตึงผิดปกติ” หรือ “คางเอียงและเป็นก้อนแข็ง” อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า พังผืดหลังเสริมคาง (Capsular Contracture หรือ Fibrosis) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่ทำศัลยกรรมเสริมซิลิโคนแม้จะไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่ถ้าเข้าใจสาเหตุและดูแลอย่างถูกวิธี ก็สามารถลดโอกาสเกิดพังผืดได้มากค่ะ

What is post-chin augmentation fibrosis?

พังผืดหลังเสริมคางคืออะไร

หลังจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เช่น ซิลิโคน ร่างกายจะตอบสนองโดยสร้างเนื้อเยื่อบาง ๆ ขึ้นมาหุ้มรอบ ๆ วัสดุนั้น ซึ่งถือเป็นกระบวนการปกติของร่างกาย แต่ในบางคน พังผืดนี้หนา แข็ง หรือหดรัดตัวมากเกินไป จนเกิดแรงดึงบริเวณคาง ทำให้รู้สึกตึง เจ็บ หรือคางผิดรูป พังผืดไม่ใช่สิ่งอันตรายโดยตรง แต่หากปล่อยไว้นานอาจทำให้คางบิดเบี้ยว หรือจำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขในภายหลังได้ค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดพังผืดหลังเสริมคาง

ร่างกายของแต่ละคนจะตอบสนองแตกต่างกัน แต่ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดพังผืดมีหลายอย่าง เช่น

1. ภาวะติดเชื้อหลังผ่าตัด

หากแผลติดเชื้อ เพียงเล็กน้อย ร่างกายจะเร่งสร้างเนื้อเยื่อมาหุ้มซิลิโคนมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ส่งผลให้พังผืดแข็งและหดรัดตัวมากขึ้น

2. การผ่าตัดโดยเทคนิคที่ไม่เหมาะสม

หากตำแหน่งวางซิลิโคนไม่พอดี หรือมีการขยับเคลื่อนภายหลัง อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในเนื้อเยื่อรอบคาง ซึ่งทำให้พังผืดก่อตัวมากขึ้น

3. พฤติกรรมหลังผ่าตัด

การจับหรือกดคางแรง ๆ การนอนตะแคง รวมถึงการออกกำลังกายที่ใช้แรงในช่วงพักฟื้น ล้วนเพิ่มแรงกดที่แผลและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้พังผืดหนาขึ้นได้

4. ปฏิกิริยาของร่างกายต่อซิลิโคน

บางคนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายสร้างพังผืดหุ้มแน่นจนรู้สึกแข็งตึง

Warning signs that your chin may be suffering from scar tissue

สัญญาณเตือนว่าคางอาจเกิดพังผืด

หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินโดยละเอียด ไม่ควรนวดหรือพยายามกดเอง เพราะอาจทำให้พังผืดรุนแรงขึ้นได้ค่ะ

  • คางเริ่มแข็งหรือรู้สึกตึงผิดปกติ
  • คลำแล้วมีก้อนแข็งหรือผิวไม่เรียบ
  • คางเบี้ยวหรือเอียงไปข้างหนึ่ง
  • รู้สึกเจ็บหรือมีแรงดึงเมื่อขยับหน้า

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดหลังเสริมคาง

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

หลังผ่าตัดควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระทบต่อบริเวณคาง เช่น การนอนตะแคง ก้มหน้า หรือจับแผลบ่อย ๆ

2. รักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อ

หมั่นทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนในช่วงพักฟื้น เพื่อป้องกันการอักเสบที่อาจเป็นต้นเหตุของพังผืด

3. พบแพทย์เพื่อติดตามอาการสม่ำเสมอ

ช่วง 1–3 เดือนแรกหลังผ่าตัด ควรกลับไปให้แพทย์ตรวจเช็กเป็นระยะ เพื่อดูการเข้าที่ของซิลิโคนและสังเกตสัญญาณพังผืดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากพบเร็ว มักรักษาได้ง่ายและไม่ต้องแก้ไขใหญ่

4. ดูแลสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง

การนอนพักให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก และรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ผักผลไม้สด จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและลดการสร้างพังผืดได้ดีขึ้น

What should you do if scar tissue occurs?

หากเกิดพังผืดแล้วควรทำอย่างไร

หากพบว่าเกิดพังผืดจริง แพทย์อาจพิจารณาการรักษาหลายวิธี เช่น

  • ใช้ยาลดอักเสบเพื่อลดอาการตึง
  • การนวดหรือเลเซอร์เพื่อคลายพังผืดในบางกรณี
  • หรือในกรณีที่พังผืดหนามาก อาจต้องผ่าตัดนำออกและเสริมใหม่อย่างระมัดระวัง

พังผืดหลังเสริมคางเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางคน แต่สามารถ “ป้องกันได้” หากใส่ใจการดูแลหลังผ่าตัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ การสังเกตอาการผิดปกติและตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการเสริมคางอยู่ได้นาน สวยเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยค่ะ

เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *