ClinicInsights.asia

Logo Footer Clinic Insights
The Department of Medical Services is moving forward with the expansion of cerebrovascular disease treatment centers nationwide, hoping to reduce disability and restore a better life for patients.

กรมการแพทย์เดินหน้าเพิ่มศูนย์รักษาโรคหลอดเลือดสมองทั่วประเทศ หวังลดความพิการและคืนชีวิตที่ดีให้ผู้ป่วย

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและความพิการอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ เพื่อลดผลกระทบทางสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงประกาศแผนพัฒนา “ศูนย์รักษาโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร” ครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้าลดอัตราความพิการ และเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติได้มากที่สุด

Stroke: A public health problem that needs urgent management

โรคหลอดเลือดสมอง ปัญหาสาธารณสุขที่ต้องรีบจัดการ

ข้อมูลจากกรมการแพทย์ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่กว่า 300,000 รายต่อปี และเกือบครึ่งหนึ่งต้องใช้ชีวิตกับความพิการบางรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือการพูดไม่ชัด สาเหตุสำคัญมาจากการมาพบแพทย์ล่าช้า และขาดระบบการดูแลต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล

ดังนั้น กรมการแพทย์จึงกำหนดแนวทางสำคัญในการพัฒนา “Stroke Center” ให้ครบทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว ปลอดภัย และได้รับการฟื้นฟูอย่างมีมาตรฐาน

ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์เฉพาะทาง 100 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2570

โครงการนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ “ลดความพิการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย” กรมการแพทย์วางแผนขยายศูนย์รักษาโรคหลอดเลือดสมองให้ครบ 100 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2570 โดยแต่ละศูนย์จะมีทีมแพทย์ทางระบบประสาท พยาบาลเฉพาะทาง และนักกายภาพบำบัดประจำศูนย์ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยครอบคลุมตั้งแต่ระยะเฉียบพลันจนถึงการฟื้นฟูระยะยาว

Stroke Center Operational Guidelines

แนวทางการดำเนินงานของศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง

  1. รักษาอย่างรวดเร็ว 

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันต้องได้รับการรักษาภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ เพื่อป้องกันความเสียหายของสมอง ศูนย์รักษาจะใช้ระบบประสานงาน “Fast Track Stroke” เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาละลายลิ่มเลือดหรือเข้ารับการผ่าตัดทันเวลา

  1. การดูแลแบบสหสาขา

แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด และนักโภชนาการจะทำงานร่วมกัน เพื่อวางแผนฟื้นฟูผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

  1. ระบบติดตามหลังออกจากโรงพยาบาล

ใช้เทคโนโลยี Telemedicine ในการติดตามอาการผู้ป่วยทางไกล โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำและช่วยให้ผู้ป่วยปรับตัวในชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น

อาการเตือนที่ควรสังเกต รู้เร็ว ช่วยชีวิตได้

กรมการแพทย์เน้นย้ำให้ประชาชนรู้จักสังเกตอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยหลัก “FAST” ได้แก่

  • F – Face (ใบหน้า) ปากเบี้ยว ยิ้มแล้วไม่เท่ากัน
  • A – Arm (แขน) ยกแขนไม่ขึ้น แขนอ่อนแรง
  • S – Speech (พูด) พูดไม่ชัด หรือพูดไม่ได้
  • T – Time (เวลา) รีบไปโรงพยาบาลทันที

เพราะทุกนาทีที่ช้า เซลล์สมองจะถูกทำลายเพิ่มขึ้น ทำให้ผลการรักษาและการฟื้นฟูยากขึ้น

คืนชีวิตใหม่ด้วยการฟื้นฟู

หลังผ่านการรักษาในภาวะเฉียบพลัน ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน กรมการแพทย์จึงจัดตั้ง ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Rehab Center) ในเครือโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง เพื่อดูแลต่อเนื่องทั้งด้านกายและใจ

การฟื้นฟูจะเน้น

  • การเดิน การทรงตัว และการใช้อวัยวะที่อ่อนแรง
  • การฝึกพูดและกลืนอาหาร
  • การดูแลด้านจิตใจ เพื่อป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังอาการป่วย
New technology helps patients recover faster

เทคโนโลยีใหม่ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยเร็วขึ้น

ศูนย์บางแห่งได้นำเทคโนโลยีช่วยฟื้นฟูสมัยใหม่ เช่น

  • หุ่นยนต์กายภาพบำบัด 

ที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของแขนและขาให้กลับมาแข็งแรง

  • Virtual Reality (VR)

ใช้เทคโนโลยีจำลองสภาพแวดล้อมเพื่อฝึกการทรงตัวและการเดินอย่างสนุกและปลอดภัย

  • ระบบติดตามอาการผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพ

เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบความคืบหน้าของผู้ป่วยจากระยะไกลได้แบบเรียลไทม์

คืนคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย  เป้าหมายที่เป็นไปได้

โครงการนี้ไม่ได้มุ่งเพียงลดอัตราการเสียชีวิต แต่ตั้งเป้าให้ผู้ป่วยรอดและกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด การสร้างศูนย์รักษาและฟื้นฟูครบทุกพื้นที่ จะช่วยให้คนไทยเข้าถึงการรักษาที่มีมาตรฐานโดยไม่ต้องเดินทางไกล เป็นก้าวสำคัญในการ “คืนคุณภาพชีวิต” ให้กับผู้ป่วยและครอบครัวอย่างแท้จริง

โรคหลอดเลือดสมองเป็นภัยเงียบที่ใครก็มีโอกาสเผชิญได้ แต่ด้วยการพัฒนาศูนย์เฉพาะทางของกรมการแพทย์ในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นความหวังใหม่ของการแพทย์ไทย ที่มุ่งให้ทุกคนมีชีวิตที่ยืนยาว แข็งแรง และเต็มไปด้วยคุณค่ามากขึ้นในทุกวัน

เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *