เลือกคลินิกปลูกผมยังไงให้ปลอดภัยและได้ผลจริง
อาการผมร่วงหรือศีรษะบางเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะ […]
การปลูกผมถาวร เป็นทางเลือกที่หลายคนกำลังพิจารณา โดยเฉพาะเมื่อวิธีอื่นไม่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ปัจจุบันมีเทคนิคหลักที่ใช้กันอยู่สองแบบคือ FUE และ FUT ทั้งสองวิธีมีเป้าหมายเดียวกัน คือการย้ายรากผมจากบริเวณที่แข็งแรงไปยังจุดที่ผมบางหรือไม่มีผม แต่มีความแตกต่างในกระบวนการ ขั้นตอน และการฟื้นตัวที่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าแบบไหน “เจ็บน้อยกว่า” หรือ “แผลหายเร็วกว่า” บทความนี้จะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อควรพิจารณาของทั้ง FUE และ FUT ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจค่ะ

สารบัญเนื้อหา
ToggleFUE (Follicular Unit Extraction)
เป็นเทคนิคที่ใช้การเจาะกราฟต์ผม ออกจากหนังศีรษะทีละกราฟต์ ด้วยหัวเจาะขนาดเล็ก แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ข้อดี คือไม่มีแผลเป็นเป็นเส้นยาว เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะเป็นแถบ
FUT (Follicular Unit Transplantation)
ใช้วิธีตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอย ออกมาเป็นแถบ แล้วแยกกราฟต์ผมจากแถบนั้นก่อนนำไปปลูกใหม่ วิธีนี้สามารถเก็บกราฟต์ได้จำนวนมากในครั้งเดียว
FUE
หลายคนที่เคยทำรีวิวว่า เจ็บน้อยมากหรือแทบไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างทำ เพราะใช้ยาชาเฉพาะจุด และเครื่องมือมีขนาดเล็ก ส่วนอาการเจ็บหลังทำก็น้อยเช่นกัน มีเพียงอาการตึงหรือรู้สึกแสบเล็กน้อยที่บริเวณผู้บริจาค ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน
FUT
ระหว่างทำอาจไม่รู้สึกเจ็บเพราะใช้ยาชาเช่นกัน แต่หลังผ่าตัด บางคนจะมีอาการตึงหรือปวดบริเวณที่ถูกตัดหนังศีรษะ โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก และต้องมีการดูแลแผลผ่าตัดอย่างใกล้ชิด
FUE
แผลเป็นจุดเล็ก ๆ กระจายตามแนวที่เจาะ ซึ่งจะหายได้ค่อนข้างเร็ว โดยมากใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ผิวหนังเริ่มปิดและอาการบวมลดลง เหมาะกับผู้ที่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเร็ว
FUT
ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบเปิด มีแผลเป็นแถบยาวและต้องเย็บแผล อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงต้องงดกิจกรรมที่ใช้แรงบริเวณศีรษะช่วงแรก

FUE
เหมาะกับผู้ที่ต้องการแผลน้อย และเน้นภาพลักษณ์ เพราะแทบไม่มีรอยแผลชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากต้องการปลูกผมในปริมาณมาก อาจต้องทำหลายรอบ
FUT
แม้มีแผลเป็นยาวแต่สามารถเก็บกราฟต์ผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่ผมบางขนาดใหญ่ หรือคนที่ต้องการปลูกหนาในครั้งเดียว
FUE เหมาะกับ
ผู้ที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว ไม่อยากให้เห็นแผลเป็นชัดเจน คนที่ต้องการปลูกไม่มาก หรือปลูกเฉพาะบางจุด เช่น กรอบหน้า หรือแนวไรผม
FUT เหมาะกับ
ผู้ที่มีศีรษะด้านหลังแน่นและแข็งแรง มีพื้นที่ต้องการปลูกผมเยอะ หรือวางแผนจะปลูกหนาในครั้งเดียวจบ
หากพูดถึงเรื่อง “เจ็บน้อย” และ “แผลหายเร็ว”
FUE จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดเป็นแถบ แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และสามารถใช้ชีวิตปกติได้เร็วกว่า
แต่หากเป้าหมาย คือการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว
FUT อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า แม้จะฟื้นตัวช้ากว่า แต่ก็ได้จำนวนกราฟต์ที่มากในราคาต่อกราฟต์ที่ประหยัดกว่าด้วย
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินว่าโครงสร้างเส้นผม ความหนาแน่น และสุขภาพหนังศีรษะของคุณเหมาะกับเทคนิคใด เพราะการเลือกวิธีที่เหมาะที่สุดจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและคุ้มค่าที่สุดค่ะ
เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia
อาการผมร่วงหรือศีรษะบางเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะ […]
การปลูกผมกลายเป็นหนึ่งทางเลือก ของคนที่กำลังประสบปัญหาเ […]
การปลูกผมเป็นเพียงการฟื้นฟูความมั่นใจ แต่การดูแลหลังทำค […]
ปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือหัวเถิกเริ่มส่งผลต่อความมั่นใจ หล […]
ปัญหาผมร่วงยังคงเป็นเรื่องกวนใจที่หลายคนอยากแก้ให้จบ ไม […]
ใครที่มีปัญหาหนังศีรษะมันเยิ้ม จนต้องสระผมทุกวัน บางครั […]
ผมร่วงเป็นภาวะที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่รูปแบบและสาเหตุ […]
หลายคนที่มีปัญหารังแค อาจสังเกตได้ว่าผมเริ่มร่วงมากกว่า […]
เดิมทีเป็นคนผมบางตรงบริเวณหน้าผากและกลางศีรษะ ทำให้รู้ส […]