เลือกคลินิกปลูกผมยังไงให้ปลอดภัยและได้ผลจริง
อาการผมร่วงหรือศีรษะบางเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะ […]
ปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือหัวเถิกเริ่มส่งผลต่อความมั่นใจ หลายคนก็เริ่มมองหาทางแก้ไขที่ได้ผลจริงและอยู่ได้นาน วิธีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ “การปลูกผมถาวร” ซึ่งแม้จะไม่ใช่ทางลัดที่เห็นผลทันที แต่ก็เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับวิธีนี้ และบางคนก็ยังลังเลว่า “ปลูกผมถาวรดีไหม” บทความนี้จะชวนมาเจาะลึกถึงข้อดี ข้อจำกัด และใครบ้างที่เหมาะกับการปลูกผมแบบถาวร
ปลูกผมถาวรคืออะไร
ปลูกผมถาวร คือ การนำกราฟต์ผม (follicular units) จากบริเวณที่มีความแข็งแรง เช่น ด้านหลังหรือด้านข้างของศีรษะ มาย้ายไปยังบริเวณที่ผมบางหรือไม่มีเส้นผม โดยส่วนใหญ่ใช้เทคนิคที่ไม่ทิ้งรอยแผลชัดเจน เช่น
• การย้ายรากผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)
• หรือเทคนิคแบบแถบ FUT สำหรับบางกรณีที่ต้องการใช้จำนวนเส้นผมมาก
ข้อดีของการปลูกผมถาวร
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เพราะใช้รากผมของตัวเองที่มีความแข็งแรง
• ดูเป็นธรรมชาติเมื่อทำโดยทีมที่มีประสบการณ์
• ไม่ต้องพึ่งยารักษาผมร่วงไปตลอด
• เสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งตัวหรือเข้าสังคม
• เหมาะกับผู้ที่เคยลองวิธีอื่นมาแล้วแต่ไม่เห็นผล
ใครบ้างที่เหมาะกับการปลูกผมแบบถาวร
- ผู้ที่มีผมบางจากกรรมพันธุ์ (androgenetic alopecia)
โดยเฉพาะเพศชายที่มีรูปแบบผมร่วงเฉพาะ เช่น เถิกตรงหน้าผาก หรือบางกลางกระหม่อม
- ผู้หญิงที่มีผมบางแบบกระจายทั่วศีรษะ
บางกรณีสามารถใช้วิธีปลูกผมร่วมกับ การรักษาอื่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขแนวผม เช่น ลดหน้าผาก หรือเติมไรผมข้างขมับ
เหมาะกับคนที่โครงหน้าเปลี่ยนไปจากผมร่น หรืออยากเพิ่มความมั่นใจในการทำผม
- ผู้ที่เคยปลูกผมมาแล้วแต่ต้องการเติมเต็มให้แน่นขึ้น
เพราะบางครั้งการปลูกผมรอบแรกอาจได้ผลไม่เต็มที่ตามคาด จึงมีการปลูกซ้ำในจุดเดิมหรือจุดใหม่
- ผู้ที่สุขภาพดีและมีผมบริเวณผู้บริจาคเพียงพอ
ต้องมีพื้นที่ด้านหลังศีรษะที่มีเส้นผมหนาแน่น พอจะย้ายรากผมมาปลูกใหม่ได้
ใครบ้างที่อาจยังไม่เหมาะกับวิธีนี้
• ผู้ที่มีโรคหนังศีรษะเรื้อรัง เช่น สะเก็ดเงินหรือผื่นอักเสบที่ควบคุมไม่ได้
• คนที่ผมร่วงทั่วศีรษะแบบเฉียบพลัน เช่น จากภาวะฮอร์โมนหรือผลข้างเคียงของยา
• ผู้ที่อายุยังน้อยมาก (ต่ำกว่า 25 ปี) และมีแนวโน้มผมร่วงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
• ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางหรือสุขภาพไม่พร้อมต่อการทำหัตถการ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม
• ผลลัพธ์ไม่ใช่ทันที ต้องรอประมาณ 6–12 เดือนจึงจะเห็นผมขึ้นเต็ม
• อาจมีผมบางลงช่วงแรกหลังปลูก เรียกว่า “shock loss” ซึ่งเป็นภาวะปกติที่ผมจะขึ้นใหม่ในภายหลัง
• การดูแลหลังปลูกมีความสำคัญ เช่น หลีกเลี่ยงการขยี้ผมแรง ๆ และไม่ให้ผิวหนังบริเวณปลูกเกิดการอักเสบ
• ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ที่ปลูก และมาตรฐานของสถานพยาบาล
คำแนะนำเพิ่มเติม
ก่อนตัดสินใจปลูกผม ควรเข้ารับการประเมินอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ด้านเส้นผม เพื่อให้วางแผนอย่างเหมาะสมทั้งในแง่ความต้องการ รูปร่างศีรษะ และแนวโน้มผมร่วงในอนาคต เพราะหากวางแผนไม่รอบคอบ อาจได้แนวผมที่ไม่เหมาะกับรูปหน้า หรือปลูกแล้วผมยังบางในจุดอื่นที่ไม่ได้ดูแล
การปลูกผมถาวร เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เคยลองใช้แชมพู ยารักษา หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ มาแล้วแต่ไม่ได้ผล แม้จะใช้เวลาในการฟื้นตัว แต่หากวางแผนอย่างเหมาะสมและดูแลอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถมีผมที่แข็งแรงและมั่นใจได้อีกครั้งค่ะ
เขียน/เรียบเรียง โดย: ClinicInsights.asia
